Obstruction Light แบบโซลาร์ VS แบบใช้ไฟฟ้า

ทำไมต้องใช้ Obstruction Light

Obstruction Light หรือ ไฟเตือนสัญญาณทางอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เตือนนักบินหรือผู้ควบคุมยานบินให้ทราบถึงตำแหน่งของสิ่งกีดขวาง เช่น เสาสื่อสาร กังหันลม ตึกสูง หรือโครงสร้างต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการบิน โดยจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น FAA และ ICAO

Obstruction Light แบบโซลาร์

ตัวอย่างรุ่น 1296W5A Solar-powered LED Obstruction Light จาก B.S.E. Electronic

คุณสมบัติเด่น

• ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (แผงโซลาร์ประสิทธิภาพสูง 5W)

• แบตเตอรี่ 12V 5Ah (Seal lead acid) ใช้งานต่อเนื่องในความมืดได้ 9–10 วัน

• ความสว่าง ≥ 15 cd มองเห็นได้ไกล 2 ไมล์

• ปรับรูปแบบการกระพริบได้ 5 ระดับ (20–60 ครั้ง/นาที) หรือไฟนิ่ง

• เลนส์ Fresnel glass 360° มาตรฐานสากล (FAA AC 70/7460-1 L-810, ICAO Annex 14)

• ทนสภาพอากาศ (-30°C ถึง +85°C), IP65 กันน้ำกันฝุ่น

• รับประกัน 5 ปีสำหรับ LED และแผงโซลาร์ / 1 ปีสำหรับแบตเตอรี่

ข้อดี

• ไม่ต้องเดินสายไฟ เหมาะกับพื้นที่ห่างไกลหรือไม่มีแหล่งจ่ายไฟ

• ติดตั้งง่ายและเคลื่อนย้ายได้

• ลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

ข้อจำกัด

• ค่าอุปกรณ์สูงกว่าในตอนแรก

• ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 3–5 ปี

• ประสิทธิภาพขึ้นกับปริมาณแสงแดด

Obstruction Light แบบใช้ไฟฟ้า

คุณสมบัติทั่วไป

• ต่อเข้าระบบไฟฟ้า 220VAC หรือ 110VAC

• ความสว่างคงที่ไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ

• เลือกกำลังวัตต์และรูปแบบการกระพริบได้

• เหมาะกับโครงสร้างที่อยู่ใกล้แหล่งจ่ายไฟ

ข้อดี

• การทำงานเสถียรตลอด 24 ชม.

• ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่

• ค่าอุปกรณ์เริ่มต้นต่ำกว่าแบบโซลาร์

ข้อจำกัด

• ต้องเดินสายไฟ ทำให้ติดตั้งซับซ้อน

• มีค่าไฟฟ้ารายเดือน

• ไม่เหมาะกับพื้นที่ห่างไกล

สรุปและคำแนะนำ

• เลือกแบบโซลาร์ หากต้องการติดตั้งในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีไฟฟ้า หรือโครงการชั่วคราว

• เลือกแบบใช้ไฟฟ้า หากอยู่ในเมือง มีระบบไฟพร้อม และต้องการความเสถียรสูงสุด

หากยังไม่แน่ใจว่าแบบไหนเหมาะกับโครงการของคุณ B.S.E. Electronic มีทีมวิศวกรพร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบ Obstruction Light ตามมาตรฐาน FAA/ICAO เพื่อให้ได้โซลูชันที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด