top of page
ค้นหา

"ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ: ประเภทไฟสัญญาณเตือนตาม มาตรฐาน FAA และ มาตรฐาน ICAO และความจำเป็นในการติดตั้งสำหรับตึกสูง"

  • siwapornbse
  • 3 ก.ย. 2567
  • ยาว 1 นาที
ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ มาตรฐาน FAA มาตรฐาน ICAO
ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ มาตรฐาน FAA มาตรฐาน ICAO

ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ: ประเภทตามกฎ FAA และ ICAO และความสำคัญในการติดตั้งสำหรับตึกสูง**การติดตั้งไฟสัญญาณเตือนทางอากาศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกีดขวางสูง เช่น ตึกระฟ้า หรือโครงสร้างสูงอื่นๆ การใช้ไฟสัญญาณเตือนตามมาตรฐานที่กำหนดโดย FAA (Federal Aviation Administration) และ ICAO (International Civil Aviation Organization) ช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศและเพิ่มความปลอดภัยในการบินอย่างมีประสิทธิภาพ




ประเภทของไฟสัญญาณเตือนทางอากาศตามกฎ FAA และ ICAO


1. ไฟสัญญาณเตือนชนิดกระพริบ (Flashing Lights):

  • ไฟกระพริบสีแดง (Red Flashing Lights):

ใช้สำหรับการเตือนในเวลากลางคืนและในสภาพอากาศที่มืดครึ้ม แสงสีแดงกระพริบจะทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล โดยทั่วไปใช้สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงต่ำถึงปานกลาง

  • ไฟกระพริบสีขาว (White Flashing Lights):

ใช้สำหรับการเตือนในเวลากลางวัน โดยแสงสีขาวกระพริบช่วยให้สามารถมองเห็นได้ดีในสภาพอากาศที่มีหมอกหรือเมฆมาก


2. ไฟสัญญาณเตือนชนิดคงที่ (Steady Lights):

  • ไฟคงที่สีขาว (White Steady Lights):**

ใช้สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงสูงและมองเห็นได้ยากในระยะไกล เช่น ตึกระฟ้าหรือเสากังหันลม ไฟชนิดนี้มักใช้ร่วมกับไฟกระพริบเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็น


3. ไฟสัญญาณเตือนชนิดสองสี (Dual Lights):

  • ไฟสัญญาณแบบสองสี (Dual Flashing Lights):

การรวมทั้งแสงสีแดงและสีขาวเพื่อให้ครอบคลุมการเตือนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน โดยทั่วไปใช้ในโครงสร้างที่มีความสูงมากและมีความจำเป็นในการมองเห็นตลอดทั้งวัน




ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ มาตรฐาน FAA มาตรฐาน ICAO
ไฟสัญญาณเตือนทางอากาศ มาตรฐาน FAA มาตรฐาน ICAO

ประเภทไฟตามมาตรฐานเฉพาะ


1. ไฟสัญญาณประเภท Low Type A (Low Intensity Type A):

  • ไฟกระพริบสีแดงที่ใช้สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงต่ำถึงปานกลาง (ต่ำกว่า 200 ฟุตหรือ 61 เมตร) เพื่อเตือนเครื่องบินในเวลากลางคืน


2. ไฟสัญญาณประเภท Medium Intensity (Medium Intensity):

  • ไฟกระพริบที่ใช้สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงปานกลางถึงสูง (200 ฟุตถึง 500 ฟุต หรือ 61 เมตรถึง 152 เมตร) ซึ่งมักเป็นไฟกระพริบสีแดงหรือสีขาว


3. ไฟสัญญาณประเภท High Intensity (High Intensity):

  • ไฟกระพริบที่ใช้สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงสูงมาก (มากกว่า 500 ฟุต หรือ 152 เมตร) ซึ่งมักเป็นไฟกระพริบสีขาวที่มีความสว่างสูงและสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล


ความสำคัญของการติดตั้งไฟสัญญาณเตือนทางอากาศสำหรับตึกสูง


การติดตั้งไฟสัญญาณเตือนทางอากาศสำหรับตึกสูงมีความสำคัญเพราะช่วยป้องกันการชนกันของเครื่องบินกับสิ่งกีดขวางในพื้นที่การบิน การติดตั้งไฟสัญญาณตามมาตรฐานของ FAA และ ICAO มีข้อกำหนดที่ชัดเจนเพื่อรับประกันความปลอดภัย


ระดับความสูงที่ต้องติดตั้งไฟสัญญาณ


  • ตามมาตรฐานของ FAA:

ตึกหรือโครงสร้างที่มีความสูงเกิน 200 ฟุต (ประมาณ 61 เมตร) จำเป็นต้องติดตั้งไฟสัญญาณเตือนเพื่อให้ความปลอดภัยในพื้นที่การบิน


  • ตามมาตรฐานของ ICAO:

สำหรับโครงสร้างที่มีความสูงเกิน 45 เมตร (ประมาณ 148 ฟุต) ในเขตที่มีการบินคับคั่ง จำเป็นต้องติดตั้งไฟสัญญาณเตือนและต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้การติดตั้งตรงตามข้อกำหนด


ทำไมต้องติดตั้งไฟสัญญาณเตือน


1. เพิ่มความปลอดภัย:

การติดตั้งไฟสัญญาณเตือนช่วยให้เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดอันตรายได้จากระยะไกล ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ


2. ปฏิบัติตามกฎระเบียบ:

การติดตั้งตามมาตรฐานของ FAA และ ICAO เป็นข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้การบินในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎระเบียบ


3. ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ:

ไฟสัญญาณเตือนที่มองเห็นได้ชัดเจนช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องบินชนกับสิ่งกีดขวาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรง


การติดตั้งไฟสัญญาณเตือนทางอากาศตามข้อกำหนดของ FAA และ ICAO เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรับประกันความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกีดขวางสูง การเลือกและติดตั้งไฟสัญญาณที่เหมาะสมจะช่วยให้การบินเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งไฟสัญญาณเตือนทางอากาศที่ตรงตามมาตรฐานสากล เพื่อให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของพื้นที่ของคุณ

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page